News from manager online about this looks great. The link to the news is
http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9480000030427
I'd like to copy last part of the news here:
ทั้งนี้ สินค้าโอทอป สินค้า SMEs สามารถจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อขอรับความคุ้มครองหรือแจ้งข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบมาก เริ่มจากการจดทะเบียนสิทธิบัตร ซึ่งการจดสิทธิบัตรสามารถจดได้ 2 ประเภท คือ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น การประดิษฐ์ รถยนต์ ทีวี คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือการออกแบบขวดบรรจุน้ำดื่ม ขวดบรรจุน้ำอัดลม หรือการออกแบบลวดลายบนจานข้าว ถ้วยกาแฟ ไม่ให้เหมือนของคนอื่น การออกแบบแก้วน้ำให้มีรูปร่างคล้ายรองเท้าบูต เป็นต้น ซึ่งสินค้าโอทอป-SMEs สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรได้หลายรายการเลยทีเดียว ที่สำคัญ สินค้าที่จะขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ได้นั้น ผู้ผลิตสินค้าโอทอป-SMEs จะต้องดูว่าเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้หรือไม่ คือ 1.เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ที่ยังไม่เคยมีจำหน่ายหรือขายมาก่อน หรือยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในที่ใดมาก่อน 2.มีขั้นตอนการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น คือ ไม่เป็นสิ่งการประดิษฐ์ที่สามารถทำได้ง่าย โดยผู้มีความรู้ในระดับธรรมดา หรืออาจพูดได้ว่า มีการแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของสิ่งประดิษฐ์ที่มีมาก่อน และ 3. สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการผลิตทางอุตสาหกรรม หัตถกรรม เกษตรกรรม และพาณิชยกรรมได้ ซึ่งหากเป็นสินค้าที่เข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อนี้ก็ยื่นขอจดทะเบียนได้
อย่างไรก็ตาม หากไม่ประสงค์จะจดสิทธิบัตร หรือสินค้านั้นไม่เข้าข่ายหรือเงื่อนไขที่จะจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ได้ เช่น เป็นสินค้าที่มีจำหน่ายแพร่หลายอยู่แล้ว หรือเป็นสินค้าที่ไม่มีการคิดค้นแก้ไขปัญหาทางเทคนิคใดๆ เป็นเพียงการคิดค้นต่อยอดจากเดิมเพียงเล็กน้อย ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน มีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ก็อาจจะจดทะเบียนเป็นอนุสิทธิบัตรได้ ซึ่งมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนเหมือนกับการจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์
นอกจากนี้ ชื่อยี่ห้อของสินค้ายังสามารถที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถจดจำและเลือกหาสินค้าได้ถูกต้อง ซึ่งผลก็คือจะทำให้ผู้บริโภคแยกแยะสินค้าออกจากของคู่แข่งได้ และยังป้องกันไม่ให้คนอื่นมาใช้เครื่องหมายการค้ากับสินค้าเดียวกันนี้ได้ด้วย
ขณะเดียวกันหากมีข้อมูลทางการค้า หรือข้อมูลธุรกิจที่เก็บรักษาไว้เป็นความลับก็สามารถที่จะแจ้งข้อมูลความลับทางการค้าได้ด้วย หากมีผู้อื่นมาล่วงละเมิดก็จะมีความผิดทางกฎหมายความลับทางการค้าที่ได้รับความคุ้มครอง จะต้องเป็นข้อมูลการค้าซึ่งยังไม่รู้จักกันโดยทั่วไปและมีประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ผู้ควบคุมความลับทางการค้าจะต้องมีมาตรการที่มีความเหมาะสมในการเก็บความลับทางการค้า เช่น สูตรยา สูตรอาหาร สูตรเครื่องดื่ม สูตรเครื่องสำอาง กรรมวิธีการผลิต ข้อมูลการบริหารธุรกิจ รายละเอียดเกี่ยวกับราคาสินค้า บัญชีรายชื่อลูกค้า เป็นต้น
พร้อมกันนี้ หากสินค้าเกษตร สินค้าสินค้าโอทอป สินค้า SMEs ที่มีการปลูกหรือผลิตในชุมชนใดชุมชนหนึ่งมีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติ เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ หรือวัตถุดิบเฉพาะในพื้นที่ ทำให้ได้พืชผล หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะพิเศษที่มาจากพื้นที่ดังกล่าว เช่น ไข่เค็มไชยา ส้มโอนครชัยศรี มะขามหวานเพชรบูรณ์ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ผ้าไหมแพรวา เป็นต้น ผู้ที่ผลิตสินค้าเหล่านี้ คนที่อยู่ในชุมชน ตัวแทนในชุมชน และองค์กรส่วนท้องถิ่น สามารถที่จะยื่นขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ผลิตสินค้าที่อยู่ในแหล่งอื่นนำชื่อไปใช้ และป้องกันการแอบอ้าง ใช้ชื่อนี้กับสินค้าที่นำออกจำหน่าย
นอกจากนี้ในการผลิตสินค้า OTOP หรือสินค้า SMEs บางประเภทที่เกิดจากการสร้างสรรค์งานด้วยฝีมือเป็นงานศิลปกรรม เช่น ตุ๊กตา ลวดลายผ้า และรูปปั้น เป็นต้น ยังได้รับความคุ้มครองเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์อีกด้วยในประเด็นสุดท้าย สินค้าโอทอป-SMEs สามารถที่จะแจ้งข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยได้ด้วย เช่น การผลิตอาหารและเครื่องดื่ม การผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร การผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ และการผลิตผลิตภัณฑ์จากไม้ หิน โลหะ แก้ว เซรามิค ดินเผา เครื่องหนัง และอื่นๆ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับการจดแจ้งนั้น จะถูกรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูลสำหรับให้ ประชาชนผู้สนใจได้ค้นหาข้อมูล หรือติดต่อกับผู้แจ้งข้อมูล เพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจ อันเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาไทยให้มีการนำไปใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงพาณิชย์ต่อไป
“จะเห็นได้ว่าสินค้าโอทอป สินค้าของ SMEs จะได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาได้หลายประเภทด้วยการจดทะเบียนและแจ้งข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาได้หลากหลายรูปแบบโดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีการคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ที่เป็นเจ้าของจริงๆ และป้องกันปัญหาการละเมิด ขณะเดียวกัน ยังอาจนำหลักฐานการจดทะเบียนหรือแจ้งข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญารูปแบบต่างๆ ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกับสถาบันการเงิน เพื่อเข้าร่วมโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุนกับรัฐบาลได้ด้วย” นายคณิสสรกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ ผู้ผลิตสินค้าโอทอป ผู้ผลิตสินค้า SMEs ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โทร 0-2547-4621-5 หรือสายด่วน 1368 หรือ www.ipthailand.org
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment