[Entertain] Seven things men do that drive women nuts

เอามาจาก Hotmail Page น่ะนะ
http://msn.match.com/msn/article.aspx?articleid=3163&TrackingID=516311&BannerID=544657>1=6038

Seven things men do that drive women nuts By Alan Goldsher

I believe it was Socrates who said, “Women are insane, and men are dumb.” Then again, it might’ve been Anaïs Nin. Or maybe Simone de Beauvoir. In any event, if women are indeed insane – which I’m not convinced of – it’s only because us men are dumb. I’m not talking dumb in the I.Q. sense, but rather dumb in the clueless sense, especially when it comes to certain aspects of dating and mating. Be it logistical or emotional, there are things us guys do or don’t do that justifiably raise the collective dander of our girlfriends and/or wives. Here are seven ways to keep your significant other’s blood pressure at a healthy level: Put the toilet seat down Guaranteed if you’re not a conscientious seat-putter-downer, you hear this complaint so often that it flies in one hear and out the other. Well, boys, there’s a very valid reason this is a common kvetch: WOMEN DON’T LIKE FALLING INTO THE TOILET WHEN THEY GET UP TO USE THE BATHROOM AT 3:30 A.M.! I mean, would you want to end up with your butt in the toilet at 3:30 A.M.? Didn’t think so. Clean up Men are neat, while women are clean. To elaborate: A guy’s place may look perfect; for example, all of his “art” is in its place on the shelves, and the floor is empty of shoes, remote controls, and various other dude detritus. But when your girl examines the shelf area under that aforementioned “art,” there’s a 75% chance she’ll come upon a half-inch coating of dust. Girls, on the other hand, may have a pile of to-be-put-away clean clothes on her bedroom floor, but at least their space is clean. Get it? Good. Be emotionally available Another frequent complaint, which isn’t as easy to alleviate as the toilet situation. Many of my male brethren have spent a lifetime bottling up their feelings, and it’s hard to open up just like that. You can’t become a totally communicative guy overnight, but she’ll appreciate if you put forth a legitimate effort. If you tell her you’ll call her on Thursday, call her on Thursday You’re not in high school anymore. Quit playing head games, and get dialing. Groom yourself Based on personal experience, I know women dislike walking down the street with a guy who doesn’t keep his fingernails clipped, or his shirt and pants relatively wrinkle- and hole-free, or his armpits un-stinky. Put together an original night out Dinner and a movie? C’mon, you did that last week. And the week before. And the week before that. One more week, and you’ve officially entered Dullsville. Take her bowling, or to a museum… or any place other than to dinner and a movie. Be romantic If your girlfriend finds out one of her girlfriend’s boyfriend gave her a dozen “just because” roses – and the only “just because” gift you’ve ever given your girl is a ticket to a Cleveland Indians game – she’ll want to throttle you. And if that’s the case, you’ll deserve a throttling.

[Life] สุ่ความมีประสิทธิภาพ (3)

I Will Not Forget My Long Cherished Wish
I come so far; I will not throw it away.

เราตอนนี้แทบจะไม่เคยตระหนักถึงจุดหมายแห่งการมีชีวิตอยู่ของเราแล้ว เราไม่ได้ตระหนักถึงมันทำให้เราอ่อนแอลง ใช่จำไว้เสมอนะว่าเราต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของสังคมที่เราอยู่ไปในทางที่ดีขึ้น เราจะต้องนำศาสนาอันดีกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ และเราจะไม่ยอมแพ้ต่อความลำบากทุกข์ยากใดๆที่เราจะพานพบทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต

แต่การที่เราจะไปถึงจุดนั้นให้ได้ เราก็ต้องแสดงให้สังคมได้เห็นก่อนว่าการที่เรามีศาสนา มีความดีเป็นเสาหลักแห่งการดำเนินชีวิต ก็ทำให้เราไปถึงความสำเร็จอันยิ่งยวดได้ เราต้องทำให้คนอื่นได้เชื่อว่าศาสนาเป็นสิ่งที่นำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ในดินแดนทั้งสองได้พร้อมกัน คือ อาณาจักร และ ศาสนจักร เราจะต้องทำให้ของสองสิ่งรุ่งโรจน์ได้พร้อมกัน

เราจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคแห่งความบกพร่องภายในของเราไปให้ได้ และเราจะบอกกับลูกศิษย์ทั้งหลายที่เราจะได้พบในอนาคตว่า เขาจะทำอย่างไรจึงจะไปถึงที่สุดแห่งศักภาพโดยที่ใช้ชีวิตภายใต้ความดีงามของตนได้

แล้วอะไรคือเป้าหมายย่อยที่จะทำให้เราแสดงความเก่งกล้าในทางโลกออกมาได้บ้างล่ะ?
เพราะวิธีการที่เราได้เลือกใช้ที่จะไปถึงจุดหมายสูงสุดของเราคือ การช่วยเหลือคนด้วยวิถีทางที่มีประโยชน์ในทางโลก พร้อมกับแทรกหลักธรรมต่างๆเข้าไปให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตอีกฝ่าย ดังนั้นเราต้องทำให้อีกฝ่ายได้มองเห็นประโยชน์ในทางโลกก่อน แล้วจึงยกย่องประโยชน์ในทางธรรม

และนั่นคือคำถาม เราต้องทำอะไรมั่งจึงจะมีความสามารถพอที่จะทำให้คนอื่นประทับใจเราได้
1. เราต้องสั่งสมความสามารถพื้นฐานที่จะเกี่ยวกับงานของเราก่อน ซึ่งได้แก่
1.1. ภาษาอังกฤษ (Speak/Pronunciation, Read and Write)
1.2. แคลคูลัส
1.3. พีชคณิตเชิงเส้น (Linear Algebra)
1.4. Combinatorics and Statistics
1.5. Math Trick and Algorithm

2. ความรู้ทั่วไปที่จะทำให้คุยเล่นสนุกๆกับคนอื่นได้
2.1. มิลินทปัญหา
2.2. เรื่องทางพุทธศาสนาที่อยู่ในมติชน

[Life] สู่ความมีประสิทธิภาพ (2)

Breaking Your Wishy-Washy Mind

From Palmistry Book:
Horizontal lines across the end zone (Fig. 3-56) indicate
blockages to will power and determination. These are selfimposed,
self-defeating patterns of resistance to exercising one's will
power. These lines reveal that the person probably is not getting
maximum results in many areas of life, due to her or his own selfsabotage.

The challenge for this person is to identify what prior experiences
are subconsciously causing the self-sabotage.

เราไม่มีทางรู้ถึงอดีตตรงนั้นได้เลย เรารู้แต่ว่าข้อความเกี่ยวกับ will power และ determination นั้นเป็นจริง แต่เราหาอดีตนั้นไม่เจอ มันอาจจะเป็นมาแต่ก่อนเกิดก็ได้ ดังนั้นเราขอให้สุขนิสัยและสมาธิเพื่อเพิ่ม will power และ determination ของตัวเอง There is more than one way to do it.

นอกจากนี้เรายังมีเครื่องกีดกั้นการใช้เหตุผลและตรรกะอยู่อีก ดังนั้นเราต้องมีสติรู้เท่าทันตัวเองอยุ่เสมอ
เราทำงานได้ดีเมื่อมีทรัพยากรมาก และสามารถเข้าใจกลไกการทำงานของสิ่งต่างๆได้ดี

From Palmistry Book:
When this zone is wide at the bottom and narrow at the top
(Fig. 4-22), it shows this person starts one thing, stops doing
that because she or he wants to do something else, and later
switches back to the original plan.


บางทีอาจเป็นเพราะความเป็น Wishy-Washy มันบล็อคอำนาจจิตเราไว้ ทำให้เราอ่อนแอลงไป ดังนั้นเราต้องแก้ไขตรงนี้ เราขอเริ่มด้วยสุขลักษณะขั้นที่สอง Three Hour Session of Hard Working

แบบว่าเคยใช้มาก่อนแล้วทำให้ประสิธิภาพมันสูงมากเพราะเราแทบไม่มีการเคลื่อนไหวไปเป็นอย่างอื่น ทำให้จดจ่อมากขึ้นและเปลี่ยนงานไปมาน้อยลง

ควรลดการใช้คอมพิวเตอร์ให้น้อยลงเพราะความสามารถในการรบกวนสมาธิืมันสูงมาก เรายังต้องวางแผนและจัดระเบียบสิ่งต่างๆอีกมาก เพื่อให้รู้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ และจะได้ไม่ลืมที่จะเติมเต็มมันได้ตลอดอย่างมีประสิทธิภาพ

[Life] สุ่ความมีประสิทธิภาพ (1)

ต่อจากอดีตรำลึก เราก็มาถึง วิถีสู่ความมีประสิทธิภาพ
อันดับแรกเราจะต้องตระหนักถึงจุดหมายและพยายามไปถึงจุดหมายให้เร็วที่สุด ความพยายามที่จะก้าวไปให้เร็วที่สุดนี่หละคือกุญแจสำคัญสู่ความต้านทานความง่วง อย่างเมื่อสักครู่เราเริ่มรู้สึกง่วง แต่เราตระหนักถึงจุดหมายและเร่งรุดสู่การทำงาน ทำให้ความง่วงถูกกีดกันไว้ให้อยู่ในระดับต่ำๆเท่านั้น

แล้วทำยังไงเราถึงจะมีสติพอที่จะระลึกถึงเป้าหมายได้ล่ะ?
จำไว้อย่างนึงเลยว่าการนั่งหลังตรงไม่เกร็งเกินไป และการวางเท้าที่ไม่ไขว่ห้างมีส่วนช่วยอย่างมาก เพราะมันทำให้ร่างกายเราอยู่ในระเบียบที่สะท้อนถึงความมั่นคงออกมาได้ และนั่นหมายถึงจิตใจด้วย
ดังนั้นจงตระหนักถึงการจัดระเบียบร่างกายกายด้วย

ความเร่งรุดสำคัญมากต่องานประเภทหนึ่ง ซึ่งงานเราอาจจะแบ่งได้สองกลุ่มหลักคือ
1. Less Creativity and Skill Oriented
2. High Creativity and Profound Understanding

พวกที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ต่ำ และเน้นความชำนาญได้แก่งานด้านการฝึกเขียนโปรแกรม และงานการฝึกทำโจทย์เลขทั่วไป พวกนี้เน้นการจำ pattern ไปเรื่อยๆ ตรงนี้สำหรับบางคนจะพบว่าต้องใช้จินตนาการมากให้การตรวจหาและสร้าง pattern แต่บังเอิญว่าเรามีพรสวรรค์ด้านนี้ดีมากทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นงานกลุ่ม less creativity ไปโดยปริยาย

กับงานกลุ่มนี้ก็ขอให้เราบุกดงเ้ข้าไปลุยเลย และพยายามจับเวลาให้ตัวเองเสมอ และสังเกตด้วยว่าอะไรที่ทำให้เราช้าไป เพราะจริงๆแล้วของที่ทำให้เราช้าไปมันมีอยู่ไม่กี่แบบหรอก แต่มันกลับทำให้เราช้าได้เสมอ

เนื่องจากเรามีความประสงค์ที่จะเก็บบันทึกงานไว้บ่อยๆ ดังนั้นเราก็จะทำ snap shot สำหรับโปรแกรมไว้ด้วย และจะพิมพ์บันทึกวิธีแก้โจทย์ไว้ให้เรียกอ่านดูภายหลังได้แบบง่ายๆเสมอ

[Life] อดีตรำลึก

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่รู้สึกว่าประสิทธิภาพในการทำงานของเราต่ำมาก เริ่มตั้งแต่การนอนกินบ้านกินเมือง
เมื่อเราตกอยู่ในสภาพแบบนี้เราก็อดนึกถึงอดีตของตัวเองในสมัย ม 6 กับ ปีหนึ่งเทอมต้นไม่ได้

ตอนนั้นการทำงานประสิทธิผลสูงมาก ไม่ใช่เพราะนอนน้อยจึงมีเวลามาก แต่เป็นเพราะว่าเราทำงานมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปเรานอนวันละเกือบ 8 ชั่วโมงทีเดียว ตอนที่นอน 6 ทุ่ม เรารู้สึกว่ามันดึกมากๆเลย (ปรกตินอนตอน 4 ทุ่มครี่ง)

เราไม่ได้คิดอยากจะจมอยู่ในอดีตที่รุ่งโรจน์ แต่เราก็ต้องคิดถึงเรื่องนี้เพื่อตัวเองในปัจจุบันและอนาคต และเราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไปให้ถึงจุดประสงค์อันดีที่เราปรารถนาไว้ และสิ่งหนึ่งที่เราเห็นว่าเป็นกุญแจสำคัญของประสิทธิภาพคือ สุขนิสัย, เป้าหมายของการทำงาน และ สมาธิ

ปัจจุบันเรามีเป้าหมายในการทำงานมาก เพราะเราต้องสู้กับปัจจัยของความไม่แน่นอนหลายอย่าง และมันก็เป็นสิ่งที่นำไปสู่การล่วงเวลา และทำลายสุขนิสัยอันดี เมื่อเป็นเช่นนี้เราก็อยากจะบอกกับตนเองว่า ต่อไปนี้ขอให้รู้ด้วยว่าเป้าหมายของการทำงานคือสุขนิสัย คือต้องไม่ทำให้เกิดการล่วงเวลา งานของเราเป็นงานระยะยาวและแน่นอนว่า สุขนิสัยในระยะยาวย่อมสำคัญกว่า

นอกจากประสบการณ์ตรงและงานวิจัยบางอย่างที่เคยอ่านมา เราพบว่าการตื่นเช้าเป็นเรื่องที่ดีมาก และเราก็จะตื่นเช้าให้ได้ ต่อไปนี้เราจะตื่นตอน 6.30 น. ให้ได้ และนอนตอนประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง นี่เป็นสุขนิสัยประการที่หนึ่งที่เราจะปฏิบัติให้ได้

ส่วนอันต่อไปที่จะสร้างก็คือ ความสามารถให้การต้านทานความง่วง ในช่วงที่รุ่งโรจน์ เราไม่เคยวกกลับไปนอนต่อบนเตียงเลย ไม่ว่าตอนตื่นขึ้นมาเราจะง่วงแค่ไหน และตอนกลางวันแม้จะง่วงมาก เราก้ไม่เคยยี่หระ (จริงๆแล้วเราอาจจะไม่เคยง่วงมากก็ได้ เพราะว่าเรามีสมาธิที่แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะง่วงได้) ที่เราทำได้ก็เพราะว่าเราทำให้รู้สึกมีความตื่นเต้นกับการสู้กับอุปสรรคและจะเอาชนะตัวเองให้ได้อยู่ตลอด แต่ในวันนี้เราไม่คิดที่จะชนะตัวเอง ทำให้เรารู้สึกว่างเปล่าในชีวิตและไม่มีกำลังใจที่จะต่อสู้เพื่ออนาคตอันดีสักเท่าไหร่ เราอาจจะเป็นคนดีเช่นเดิม แต่นั่นไม่เพียงพอที่จะนำคนอื่นไปสู่ความดีได้ เราต้องแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความสำเร็จของคนดี และวิธีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จนั้นให้ได้ เราต้องนีกอยู่ในใจตลอดว่า ต้องสู้

[Link] Useful Links

This blog may grow larger and larger from time to time if I have more links to add.

1. Image Processing Fundamental
This includes derivative, morphological and convolution-based operations.
http://www.ph.tn.tudelft.nl/Courses/FIP/noframes/fip-Contents.html

1.1 Snake Implementation
http://iacl.ece.jhu.edu/projects/gvf/
http://www.slaney.org/malcolm/pubs.html

2. CVS Daily Use Guide and Complete Reference
Daily Use Guide: http://www.thathost.com/wincvs-howto/
Complete Reference: http://www.thathost.com/wincvs-howto/cvsdoc/

3. CVS GUI Websites
TortoiseCVS: http://www.tortoisecvs.org/
CvsGui (Cross-Platform, but no further development): http://www.wincvs.org/
แต่ WinCVS ที่อยู่ใน SourceForge ก็ดูเหมือนจะเป็นคนละตัวกัน ที่อยู่บน SourceForge นั้นยังดูมีการพัฒนาต่อ บางที wincvs.org อาจจะไม่ยอมอัพเดตตามก็ได้

4. Audacity (Sound Recorder)
เป็นตัวบันทึกเสียงจากช่องไมโครโฟนที่ดูดีมากและฟรี สามารถดาวน์โหลดได้จาก http://audacity.sourceforge.net/ เสียตรงที่ตั้งเวลาอัดไม่ได้ (หรือว่าเราอาจจะทำไม่เป็นเองก็ได้)
ข้อดีของ Audacity ก็คือ ไม่ต้องติดตั้ง แค่ก๊อปปี้ไฟล์ไปไว้บนดิสก์ก็รันได้เลย

5. ฐานข้อมูลด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ตามคำบอกเล่าของ bact)
:The Linguist List
http://linguistlist.org/

6. Matlab External Interface Reference
ฟังก์ชันส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวด 'C-MX Functions' ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีๆก็จะเห็นว่าฟังก์ชันที่เราเรียกให้นั้น มันนำหน้าด้วย mx หมดเลย (มี mlf ปนมาอยู่บ้าง)
http://www.mathworks.com/access/helpdesk/help/techdoc/apiref/apiref.html

สำหรับ float ในภาษา C มันจะเทียบได้กลับ mxSINGLE_CLASS ใน matlab

7. Reflection in C++
http://www.vollmann.com/en/pubs/meta/meta/meta.html

8. Atlas/Blas/Lapack (in VC++)
http://www.cs.unc.edu/~kim/lapack/
http://cvs.sourceforge.net/cgi-bin/viewcvs.cgi/matlisp/matlisp/lib/
http://www.nacse.org/demos/lapack/
http://www.inf.bv.tum.de/~heisserer/softwarelab04/
http://www.math.utah.edu/software/lapack/

9. Function Pointer and Callback Function Tutorial
http://www.newty.de/fpt/index.html

10. Multimedia Software
โปรแกรมตัดต่อและแปลงฟอร์แมตไฟล์ http://www.eo-video.com/
โปรแกรมจับหน้าจอสตรีมมิ่ง http://wmrecorder.com/

11. About IDE
11.1 VS 2005 Enchancement http://www.codeguru.com/columns/Kate/article.php/c9167/

12. PHP and Related
12.1 PHP-Nuke and SQLite http://www.tanguay.at/installPhp5.php5?step=1

[Tech] Try to Display PHP Error Message on a User Page

For debugging purpose, we can show error message on a user page, not only in error log file.
To do that, edit php.ini file and find a line with display_errors then set it to 'on', not 'off'. More info can be found in the php.ini itself or in the PHP manual.

[Tech] UpdateData method in MFC

When we use UpdateData ( FALSE ) in MFC form, the values from Document will be put into View. On the other hand, UpdateData ( TRUE ) will store user input shown on the View into the Document.

To preserve user input before writing over it, we can use UpdateData ( TRUE ) and then perform business logic to modify document variables. When we are ready to update the View, use UpdateData ( FALSE ) and the variables we modified will affect the View.

[Tech] Enable Debugging Ability in VC++ 6

Sometimes, we cannot set break point in some places. The issue usually comes from the lack of debugging info and can be solved by changing project setting to generate the info. It can be done by the following steps:

1. Click on the project name in 'Project Settings' (can be reached by a menu Project->Settings).
2. Choose a tab, 'C/C++', and see the settings for category 'General'. Make sure that the 'Debug Info' is not set to 'None' ('Program Database' recommended).
3. Next change to a tab, 'Link', and go to 'Debug' category. Make sure that the 'Debug Info' check box is checked.

Note that a break point in .h file can be set too. Just make sure that the previous steps are done correctly.

[Tech] CVSnt กับ TortoiseCVS

ตอนนี้กำลังจะเอามาใช้อย่างจริงจัง เพราะต้องการพัฒนาระบบสำรองเวอร์ชันแบบอัตโนมัติมากขึ้น เรายังยึดติดกับ CVS ไม่ใช่ SubVersion ก็เพราะความง่ายของการใช้งาน กับอินเตอร์เฟซในโปรแกรมต่างๆที่ถือว่าล้ำหน้ากว่ามาก

สำหรับ CVS นี่ก็แปลกอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ว่า Document มันไม่ได้ลงมาให้ในเครื่อง แต่จะลงลิงค์มาให้แทน งงเหมือนกันว่าต้องการให้อ่านเอกสารที่อัพเดตขนาดนั้นเลยเหรอ
(วันที่ 7 มกราคม) พบแล้ว มันให้มาเป็นไฟล์ chm เลย ดีมากๆ ใช้งานง่ายถึงจะไม่ครอสแพลตฟอร์มก็ตามเหอะ
สำหรับ password จะตั้งเป็น mycvsnt6 นะ เอาไว้ใช้ส่วนตัวเท่านั้นก็เลยเอามาแปะไว้ในนี้เลย

ตอนนี้ยังไม่ได้ลองคอนฟิกดู ถ้าทำได้แล้วจะมาบันทึกใหม่อีกรอบ

(Jan 7, 2005)
1. We can add the repository by:
cvs -d "F:/thai_club_repository" init

2. We can add a user by:
cvs -d "F:/thai_club_repos" passwd -a -r pinyo pinyotae
pinyo is a 'real' user in a system (should be a machine that host repository--not confirmed).
pinyotae is a user for the cvs system.

Note that the directory is specified every time because I have no CVSROOT value.

3. Now, we are ready to add something to the repository (actually, if everything is on local disk and we do not use any remote protocal, we can skip the step 2).
3.1. We can import our on going files into CVSROOT by
3.1.1. Go to the directory of the files.
3.1.2. Issue a command: cvs import -m "import thai club files" thai_club_project pinyotae start.
The above command imports files in your current directory into $CVSROOT/CVSROOT/thai_club_project. 'pinyotae' is a vendor name and start is a release tag.
3.2. The import makes the 'thai_club_project' directory a module we can check out.

4. Ready to check out!
4.1. Remember to check only the module you added. DO NOT check out '.' module; that will retrieve the CVSROOT directory too.
4.2. The directory (and EVERY THING inside it) you use TortoiseCVS to check out will be under CVS control. Thus, do not use TortoiseCVS at root directory of a drive. It makes all content in the drive your CVS local version. Make sure that you check out in a prepared directory.

[Entertain] กลอนรักสุนทรภู่

ไม่ค่อยชอบสุนทรภู่หรอก แต่ก็รู้สึกว่ากลอนเพราะดีนะ ถึงจะน้ำเน่าไปหน่อยก็เหอะ
(ว่าแต่ไอ้กลอนนี้ใช่ของสุนทรภู่รึเปล่าหว่า)

ถึงม้วยดิน สิ้นฟ้า มหาสมุทร
ไม่สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน
แม้อยู่ใน ใต้หล้า สุธาธาร
ขอพบพาน พิศวาส ไม่คลาดครา

แม้นเนื้อเย็น เป็นห้วง มหรรณพ
พี่ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัว ตัวพี่เป็น ภุมรา
เชยผกา โกสุม ปทุมทอง

แม้เป็นถ้ำ อำไพ ใคร่เป็นหงษ์
จะร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอติดตาม ทรามสงวน นวลละออง
เป็นคู่ครอง พิศวาส ทุกชาติไป

[Cook] วิธีทำแกงกะหรี่ที่พี่ยศสอนมา

ยังไม่ได้ลองทำดูเลย หวังว่าตอนทำเองจะไม่มีปํญหา

ส่วนประกอบ
1. เครื่องแกงกะหรี่ 4 ก้อน
2. ฺิBreast Chicken 1.5 pound (เอาส่วนอื่นก็ได้ แต่ส่วนนี้มีมันน้อย)
3. หอมหัวใหญ่(มาก) หั่นแบบสับ
4. มันฝรั่ง 4 หัว ถ้าใช้แบบสีแดงไม่้ต้องปอกเปลือก
5. Carrot 1/2 pound
6. Green Pepper 2 pieces (bell pepper)
7. เนยครึ่งแท่ง
8. เกลือ 2+ ช้อนชา
9. น้ำตาลหนึ่งช้อนโต๊ะ
10. Kikoman

วิธีทำ
1. หั่นไก่ชิ้นพองาม และ สับหอมหัวใหญ่
2. หั่นมันฝรั่งและล้างผักอื่นๆให้เรียบร้อย
3. เอาเนยและหอมใส่ลงไป รอจนเนยเริ่ม stale
4. เอาไก่ที่หั่นไว้ใส่ลงไป
5. ใส่เกลือ 2+ ช้อนชา (ที่ใส่บวกไว้เพราะบางทีมันน้อยไป แต่ก็ไม่ควรจะใส่มากไป)
ุ6. พอไก่เริ่มสุกก็ใส่น้ำลงไปสามถ้วยตวง
7. ระหว่างที่รอน้ำเดือดก็หั่นแครอทไว้ซะ
8. ตามด้วยการหั่น pepper โดยทิ้งหัวกับเม็ดมันไป (ถ้าหั่นไม่ทันก็รอทำหลังข้อ 9)
9. พอน้ำเดือดได้ 4 นาที(เพื่อให้เนื้อนิ่มพอ ถ้าใช้หมูต้องรอนานขึ้น) ก็ใส่ แครอทและมันฝรั่งลงไป
10. รอจนมันเดือดก็ใส่ pepper ลงไป รอไปอีก 5 นาที (เพื่อให้มันฝรั่งสุก)
11. ใส่น้ำตาลลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
12. อย่าพึ่งแกะซองก้อนแกง ให้หักมันเป็นสี่ชิ้นเพราะเราต้องใส่มันไปแบบกระจายๆในหม้อ
13. ใส่ก้อนแกงลงไป 4 ก้อน (ถ้ามันเหลวก็ต้องเพิ่มเป็น 5 ก้อน) แล้วก็คนไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคนมากไปมันฝรั่งจะละลายไปกับน้ำแกงกะหรี่
14. ใส่ Kikoman 1 ช้อนโต๊ะ ใส่พริกป่นและ black pepper
15. คนจนแ่น่ใจว่าได้ที่
จบ

[Tech] Webmail Address Logon Page on Ace-Host.net

อยู่ตรงนี้นะ
https://65.254.55.114:2096/webmaillogout.cgi

แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลาที่เราจะตั้งให้ดูดเมล์มาที่เมล์ไคลเอนต์ที่เครื่องต้องทำยังไง เพราะเรามีปัญหาว่าค่า IP ที่เราตั้งไว้ตอนจดโดเมนเนม มันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ ต้องศึกษากันต่อไปอีก

อ๊ะ ทำได้แล้ว แต่ยังไม่ดีเท่่าไหร่ เพราะเรายังต้องเขียน address ของเซิร์ฟเวอร์เป็น fresh.securenet-server.net ไม่สามารถใช้เป็น psuthaiclub.net ได้ ทำตามนี้นะ
1. ใช้เมล์แบบ POP3
2. ทั้ง Incoming และ Outgoing ให้ใช้เป็น fresh.securenet-server.net ทั้งคู่
3. Account Name ให้ใช้เป็น thaipsu

(ในกรณีที่เป็น account ลูก account name จะเป็น pinyotae+psuthaiclub.net ทำนองเนี้ย)